เพชรอัญมณีล้ำค่า ที่ใครหลายคนต้องการเป็นเจ้าของ เพราะนอกจากความสวยงาม แวววาวของเพชร  ที่สะกดทุกสายตาให้จับจ้อง เพชร ยังเป็นอัญมณีที่มีมูลค่าสูง  สามารถซื้อมาขายไปได้อีกด้วย

คุณลูกค้าหลายๆท่าน คงมีความกังวลใจ ในการเลือกซื้อเพชร หรือเครื่องประดับเพชร อยู่ไม่น้อย ว่า นี่ “เพชรแท้ หรือ เพชรเทียม”

“เพชรมังกร สินค้าหลุดจำนำ” จึงมี 8 วิธีดีๆ ในการทดสอบ “เพชรแท้” มาฝากกันค่ะ


1. ทดสอบเพชรด้วยหมอก (Foggy test) เป็นวิธีการทดสอบเพชร ได้ง่ายที่สุด

วิธีการ คือ ใช้สองนิ้วจับเม็ดเพชร หรือแหวนเพชรไว้ที่มือ จากนั้น
พ่นไอลมหายใจทางปากลงบนเพชร คล้ายๆกับการที่เราทำให้กระจกเป็นฝ้านั่นเอง

  • เพชรแท้ : ไอที่เราพ่นลงบนเพชรนั้น หายไปแทบจะทันที หรือถ้ามีก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจาก เพชร มีคุณสมบัติการกระจายความร้อนที่ดี
  • เพชรปลอม : ยังขุ่นๆมัวอยู่  2 -3 นาที นั้นให้คิดก่อนว่าปลอม

 

 

2. ทดสอบจากการมองเพชรด้วยสายตาปกติ  (Newspaper test/‘Read-Through’ Effect) เป็นวิธีการทดสอบที่เหมาะสำหรับ เพชรเม็ดเปลือย

วิธีการ คือ คว่ำหน้าเพชรลงบนหนังสือพิมพ์
บริเวณที่มีตัวอักษรอยู่ และมองตัวหนังสือเรานั้นผ่านเม็ดเพชร

  • เพชรแท้: เราจะอ่านข้อความ หรือตัวอักษรบนตัวหนังสือพิมพ์ไม่ได้ จะเห็นเป็นสีๆ ดำๆกระจายๆเพราะ เพชรเป็นลักษณะปริซึม ที่ทำให้แสงหักเหหรือกระจายแสง (Dispersion) เพราะเพชรแท้นั้นมีลักษณะการหักเหเป็นแบบเดี่ยว
  • เพชรปลอม: เราจะมองเห็นข้อความหรือตัวอักษรได้ เพราะมีลักษณะการหักเหแบบคู่นั่นเอง

 

           


 

3. ทดสอบจากการใช้ความร้อน (Heat the Stone test) เป็นวิธีการทดสอบที่เหมาะสำหรับเพชรเม็ดเปลือยเช่นกัน

วิธีการ คือ จุดไฟแช็ค ลนเม็ดเพชร ประมาณ 30 วินาที จากนั้น หย่อนเม็ดเพชรลงในน้ำเย็น

  • เพชรแท้: จะไม่เกิดปฏิกิริยา หรือความเปลี่ยนแปลงใดๆ เพราะ มีความแข็งแรงและทนความร้อนสูง
  • เพชรปลอม: เช่น เพชรสังเคราะห์ (Cubic Zirconia) จะเกิดการแตกร้าว เพราะคุณสมบัติที่แข็งแรงไม่เท่าเพชรแท้

 

 

4. ทดสอบด้วยการใช้แสงยูวี ( UV light test) เป็นวิธีการทดสอบที่ใช้ได้กับทั้งเม็ดเพชร และเพชรที่ฝังในเครื่องประดับ

วิธีการ คือ ส่องเพชรในที่มืด ด้วยแสงอุลตราไวโอเลตชนิดคลื่นสั้น (UV light)

  • เพชรแท้ : เปล่งประกายสีฟ้า
  • เพชรปลอม : จะไม่เปล่งประกายแสงสีฟ้า

 

5. ทดสอบเพชรด้วยลูป ( Inspecting a Diamond with a Loupe 10X) ให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบเพชรด้วยแว่นขยาย 10 เท่า (10X)

วิธีการนี้ ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญและชำนาญ ช่วยดูเหลี่ยมการเจียระไน

  • เพราะเพชรแท้จะมีเหลี่ยมที่ดูเฉียบคมไม่มีรอยขูดขีด ความไม่สมบูรณ์ และขอบรอบเม็ดหยาบๆ ซึ่งแสดงถึงความเป็นธรรมชาติ ของเพชรแท้ ซึ่งหากเป็นเพชรปลอม โครงสร้างของเพชรจะค่อนข้างเป็นระเบียบ มีเหลี่ยมที่ไม่มีความคมเพชรเรียบสวยและสมบูรณ์แบบจนเกินจริง
  • เพราะถ้าเป็นเพชรปลอมที่ได้รับการสวมใส่เป็นประจำ จะมีรอยขีดข่วนให้เห็นอย่างแน่นอน

แต่ถ้าเป็นเพชรแท้จะไม่มีรอย เนื่องจากเพชรเป็นวัสดุที่แข็งที่สุดตามหลักวิทยาศาสตร์ จึงเกิดเป็นสุภาษิตที่ว่า เพชรตัดเพชร เพราะมีวิธีเดียวที่จะทำให้เพชรเป็นรอยได้ คือการนำเพชรอีกเม็ดมาตัดนั่นเอง

 

6. ทดสอบเพชรด้วยเครื่องตรวจเพชร (Electricity Conductivity test) เป็นการวัดการนำกระแสไฟฟ้าและสภาพนำความร้อนของเพชรซึ่งเพชรจะแสดงสภาพนำไฟฟ้าได้ดีกว่าอัญมณีอื่น รวมทั้งเพชรโมอิส หรือ มอยซาไนท์สังเคราะห์ (Synthetic Moissasnite)

วิธีดูเพชรแท้กับปลอม โดยการใช้เครื่องตรวจเพชร ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด แม่นยำ และแน่นอนที่สุด เพราะปัจจุบันนี้ เครื่องตรวจเพชรสามารถตรวจสอบความนำความร้อนและค่าดัชนีความหักเหของเพชรได้ เครื่องตรวจเพชรนั้น สามารถแยกได้แค่เพชรแท้กับเพชรปลอมเท่านั้น แต่ไม่สามารถแยกเพชรแท้ธรรมชาติกับเพชรสังเคราะห์ได้

 

 

7. ทดสอบจากสถาบันผู้เชี่ยวชาญ (Certificate of Guarantee) นั่นก็คือ ใบรับประกันเพชรแท้ (ใบเซอร์) ซึ่งเป็นเครื่องยืนยัน ว่าเพชรนี้ได้ผ่านการทดสอบจากสถาบันผู้เชี่ยวชาญรับรองว่า เป็นเพชรจริงและมีคุณภาพอย่างไร โดยที่นิยมจะเป็น

  • GIA (Gemological Institute of America) : สถาบันอัญมณีของประเทศสหรัฐอเมริกา และมีสำนักงานกระจายอยู่ทั่วโลกออกใบเซอร์ตั้งแต่ 0.30 กะรัต ขึ้นไป

  • HRD Antwerp : สถาบันอัญมณีของประเทศเบลเยี่ยมซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าเพชร และศูนย์กลางการเจียระไน อันดับหนึ่งของโลก มีสำนักงานเพียงแห่งเดียวที่ประเทศเบลเยี่ยม ออกใบเซอร์ตั้งแต่ 1 กะรัต ขึ้นไป

 

 

สุดท้ายนี้ การดูเพชรแท้ อาจไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก เพราะต้องใช้ทั้งความเชี่ยวชาญ ความชำนาญและประสบการณ์สูง ดังนั้น การเลือกซื้อเพชร หรือเครื่องประดับเพชร กับ ร้านค้าที่มีชื่อเสียง มีที่ตั้งชัดเจน มีความน่าเชื่อถือ จะช่วยเป็นที่ปรึกษาและให้คุณลูกค้าได้อุ่นใจมากขึ้น

หากมีข้อสงสัย หรือต้องการปรึกษาเรื่อง เพชรและเครื่องประดับเพชร สามารถติดต่อ ทักแชททางร้านได้ที่ Line : @manggongold (มี@) ได้ทุกเวลาเลยนะคะ


เพชร (Diamond) : เป็นอัญมณีรูปแบบหนึ่งของคาร์บอน จัดเรียงตัวเป็นทรงแปดหน้า เป็นแร่ที่แข็งแรงที่สุด มีหลาย สี โดยสีที่นิยมที่สุด คือ สีขาวบริสุทธิ์ ส่วนเพชรที่หายากที่สุด จะเป็น “เพชรสี” หรือเรียกว่า “แฟนซีไดมอนด์”

ซึ่งราคา เพชรนั้น จะขึ้นอยู่กับคุณภาพของเพชร ที่ใช้หลักนิยมสากล 4 Cs ที่ GIA (Gemological Institute of America Inc) เป็นผู้กำหนดหลักการจำแนกคุณภาพเพชร โดยประกอบด้วย:

  1. ระดับความบริสุทธิ์ (Clarity)

2. น้ำหนักเพชรเทียบเป็นกะรัต (Carat)

กะรัต (Carat) คือ หน่วยวัดน้ำหนักของอัญมณีและเพชร ซึ่ง 1 กะรัตมีค่าเทียบเท่ากับ 0.2 กรัม โดยกะรัตเพชรมีตัวเลขมาก เพชรจะมีราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วย

3. สีเพชร (Color)

การจำแนกระดับสีของเพชรจะใช้ตัวอักษร จะมี 23 ระดับ ตั้งแต่ D (color less) จนถึง Z (light color)                    ซึ่ง D (color less) จะหมายถึง เพชรไร้สี เพชรที่มีความ ขาวใส มากที่สุดไม่มีสีเหลืองเจือปน และเป็นที่ต้องการสูง คนไทยเราเรียกว่า “น้ำงาม” แต่ก็ต้องแลกด้วยราคาที่สูงมาก เช่นกัน

  • กลุ่ม D,E,F  เป็นเพชรระดับไร้สี (Colorless) ได้แก่ เพชรน้ำ 100, 99, 98
  • กลุ่ม G,H,I,J เป็นกลุ่มเพชระดับเกือบไร้สี (Near Colorless) ได้แก่เพชรน้ำ 97, 96, 95, 94
  • L สีเหลืองแชมเปญ (Faint Yellow : K, L, M)
  • P เหลืองอ่อน (Very Light Yellow : N, O, P, Q, R)
  • Z สีเหลืองสด (Light Yellow : S through Z)

ซึ่ง การแยกโทนสีเพชร จะแยกเป็นเพียง ขาว และเหลือง เท่านั้น หากสีแตกต่างไปจากนี้จะอยู่ในกลุ่มของ      แฟนซีเพชร (Colored diamonds / Fancy) โดยเพชรกลุ่มนี้ ถือเป็นเพชรหายาก และมีราคาสูงเช่นกัน

4. รูปแบบและทรงการเจียระไน (Cut)

การเจียระไนเพชร (Point cut) คือการทำให้เกิดรูปทรง เช่น ทรงกลม หรือทรงไข่ และเจียละไนเหลี่ยมมุม           ซึ่งนอกจาก คุณสมบัติของน้ำหนักกะรัต, ความบริสุทธิ์ และ สี ของเพชร จะเป็นปัจจัยด้านราคาแล้ว การเจียระไนก็เป็นส่วนที่สร้างความแปรผันด้านราคาด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ความสวยงามของเพชรนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการเจียระไน รวมถึงความสามารถและความชำนาญในการเจียระไนด้วย เพชรสามารถเจียระไนออกมาได้หลายรูปทรง แต่รูปทรงที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือ ทรงกลม (Round shape) รูปแบบของการเจียระไน เพชรทรงกลมที่สวยงามที่สุดมีชื่อเรียกว่า “Brillant Cut” หรือที่รู้จักกันในนาม “เหลี่ยมเกสร”

คุณภาพของการเจียระไนและขัดผิวจะส่งผลต่อแสงที่เดินทางผ่านเพชรมาให้เราเห็น คุณสมบัติเหล่านี้ได้แก่ Proportion (สัดส่วน), Symmetry (ความสมมาตร), Polish (การขัดผิว) และอื่นๆ ซึ่งลักษณะของแสง (Light’s Performance)      ที่ดีนั้น แสงทั้งหมดจะต้องสะท้อนมายังผู้สวมใส่ ให้ความแวววาว (Brilliance) สูงสุดตามภาพที่แสดงด้านล่างดังนี้

  • Too Shallow   แสงหลุดลงไปด้านล่างไม่กระทบกลับมาด้านหน้าของเพชร ทำให้สูญเสียความแวววาวไป
  • Ideal               แสงทั้งหมดถูกสะท้อนมายังผู้สวมใส่ ทำให้เพชรเกิดความแวววาวสูงสุด
  • Too Deep        แสงตกกระทบแล้วสะท้อนออกด้านข้าง ซึ่งมักจะทำให้เพชรเกิดความหม่นหรือสีคล้ำภายใน

เพชร Hearts & Arrows (H&A) เป็นเพชรที่ได้รับการเจียระไนได้สมบูรณ์แบบที่สุด มีลักษณะพิเศษคือจะให้แสงสะท้อนที่แวววาวสูงสุด ใช้เรียกกับเพชรรูปทรงกลมเท่านั้น ซึ่งมีลักษณะเด่นคือ เราจะเห็น Pattern รูปหัวใจ 8 ดวงเมื่อมองจากด้านล่าง และลูกศร 8 ศร เมื่อมองจากด้านบน โดยหัวใจ และลูกศรก็จะมีขนาดเท่ากันทั้งหมด และวางตัวอย่างสมมาตรด้วย ซึ่งเราจะพบเพชร Heart & Arrows 1-2% ของเพชรทั้งหมดในโลกนี้เท่านั้นที่จะเจียระไนได้สมบูรณ์แบบระดับนี้ ซึ่งก็ทำให้มีราคาสูงกว่าเพชรทั่วไป

การเจียระไน แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ

  • Brilliant –Cuts เป็นที่นิยม และเป็นรูปแบบสากลในตลาดการค้าขาย อัญมณี เพราะทำให้สูญเสีย เนื้อเพชรจากการเจียระไนน้อยที่สุดการเจียระไนเพชร แบบ บริเลี่ยน ที่สมบูรณ์แบบ จะต้องนับหน้าตัดได้ 54 หน้าและ ได้เหลี่ยมมุมตามแบบมาตรฐานสากล ซึ่งจะทำให้เพชรมีไฟสวยที่สุด
  • Step-Cuts  การเจียระไนเพชรที่มีไลน์แบบบนสู่ล่างเป็นลำดับชั้น  ซึ่งมีทั้งรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้าซึ่งข้อดีของการเจียระไนแบบ Step cut จะช่วยลดการสูญเสียเนื้อเพชรจากการเจียระไนได้มาก
  • Mixed-Cuts เป็นการผสมผสานวิธีเจียระไนแบบ Step Cuts  และ Brilliant-cuts  เข้าด้วยกัน เพื่อลดการสูญเสียเนื้อเพชรจากการเจียระไน แต่ยังมีคุณสมบัติเล่นแสง แบบ  Brilliant-cuts อยู่
  • Fancy-Cuts เป็นการเจียระไนเพชร ที่นอกเหนือไปจากทรงกลม ซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดในทุกวันนี้  เช่นการเจียระไนเพชรทรงมรกตหัวใจ, ทรงมาคีช, ทรงไข่, ทรงลูกแพร์ เป็นต้น  

สิ่งต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นตัวแปรหลัก 4Cs ที่ “เพชรมังกร สินค้าหลุดจำนำ”     นำมาฝากคุณลูกค้ากันค่ะโดยหากมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติมเรื่อง เพชรและเครื่องประดับเพชร สามารถติดต่อ  ทักแชททางร้านได้ที่  Line : @manggongold (มี@) ได้ทุกเวลาเลยนะคะ


แหวน เครื่องประดับยอดนิยมที่ ช่วยเพิ่มความงดงามบนเรียวนิ้วของเรา และยังเป็นของขวัญพิเศษในหลายๆโอกาส อย่างเช่น แหวนสำหรับแต่งงาน ฉลองวันสำคัญหรือ แหวนสำหรับญาติผู้ใหญ่ที่เคารพ ซึ่งในการเลือกซื้อแหวนไซส์แหวน หรือที่เรียกว่า ขนาดแหวน เป็นสิ่งสำคัญที่เราควรรู้ ก่อนเลือกซื้อแหวนสักวงเพื่อให้มีขนาดเหมาะสมและพอดีกับผู้สวมใส่ แล้วขนาดแหวน วัดยังไง ยากหรือไม่? ลูกค้าหลายท่าน คงมีคำถามเรื่องการวัดขนาดแหวน เหล่านี้อยู่ในใจ

วันนี้ เพชรมังกร มีคำตอบ เรื่องมาตรฐานขนาดแหวน และวิธีการวัดไซส์แหวน มาฝากกันค่ะ

มาตรฐานขนาดแหวนขนาดแหวนหรือไซส์แหวน (Ring size) มีด้วยกันหลายหน่วยเรียก ซึ่งแตกต่างกันไปตามประเทศต่างๆดังตารางที่แสดงนี้ โดยในประเทศไทย จะนิยมวัดไซส์ด้วย หน่วยมาตฐาน เป็น มิลลิเมตร (millimetre)  หรือ เรียกย่อๆว่า มม. (mm.)  ซึ่งเป็นการวัดจากเส้นผ่าศูนย์กลางจากด้านในแหวนจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง

วิธีการวัดขนาดแหวน

การวัดไซส์แหวน ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน มี 3 วิธี คือ

  1. การวัดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านในของแหวนจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและให้ความแม่นยำสูง คุณลูกค้าสามารถวัดไซส์เองได้ที่บ้าน

วิธีการ คือ

  • นำแหวนที่ส่วมใส่ในปัจจุบัน วางลงบนพื้นราบ (โต๊ะหน้าเรียบ)
  • นำไม้บรรทัด วางลงบนกลางตัวแหวน เพื่อวัดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านในแหวน จากขอบแหวนด้านใน จากซ้ายไปขวา * วัดด้วยหน่วย มม.
  • ข้อดีของวิธีการนี้ แม่นยำสูง
  • ข้อควรระวัง ต้องวางไม้บรรทัดให้อยู่บริเวณกึ่งกลางตัวแหวนจริงๆ แหวนต้องเป็นวงที่เราใส่แล้วรู้สึกพอดี สบาย และต้องใช้ตัวเลขเส้นผ่าศูนย์กลางด้านในเท่านั้น

2. การวัดไซส์แหวนด้วยกระดาษ

  • ตัดกระดาษให้เป็นเส้นโดยมีขนาดความกว้างประมาณ 5 มม. x 100 มม.
  • พันเส้นกระดาษรอบนิ้วใกล้ข้อต่อ ของข้อนิ้วด้านล่าง ( ส่วนที่กว้างที่สุดของนิ้ว)
  • ใช้ปากกามาร์คบริเวณรอยต่อของกระดาษที่พันบนนิ้ว
  • นำมาวางบนพื้นราบเพื่อวัดเทียบกับไม้บรรทัด
  • ข้อดีของวิธีการนี้ สะดวก รวดเร็ว
  • ข้อควรระวัง กระดาษที่ใช้ไม่ควรบางเกินไปเพราะจะมีความยืดหยุ่นสูงเกินไป ทำให้ไซส์เคลื่อนได้ง่าย ,

**ควรวัดไซส์ในช่วงบ่าย หรือเย็น เพราะร่างการมีการขยายเนื่องจากสภาพอากาศร้อน, ไม่ควรวัดติดบริเวณโคนนิ้ว เพราะจะได้ขนาดเล็กกว่าบริเวณใกล้ข้อต่อนิ้วด้านล่าง

**หากวัดไซส์ด้วยวิธีนี้ ควรแจ้งร้านค้าให้ทราบว่าวัดด้วยกระดาษ เพราะแต่ละร้านค้าจะมีการนำไซส์ที่ลูกค้าวัดด้วยกระดาษไปเข้าสูตร -3,-6 ของแต่ละร้านค้า

3. การใช้พวงวัดไซส์แหวนหรือกระบองวัดไซส์

การใช้พวงวัดไซส์แหวน จะให้ค่าที่ค่อนข้างแม่นยำ เนื่องจาก พวงไซส์แหวนจะมีขนาดมาตรฐานของแต่ละไซส์ให้ลูกค้า ได้ทดลองสวมใส่

ซึ่งการวัดใน ลักษณะนี้ คุณลูกค้าจำเป็นต้องเดินทางไปที่ร้านและวัดโดยตรง หรือสามารถสั่งซื้อพ่วงไซส์แหวนเพื่อเก็บไว้ใช้งานส่วนตัวก็ได้เช่นกัน

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการวัดไซส์แหวนที่ เพชรมังกร นำฝากกันค่ะ โดยหากมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติมเรื่องแหวนและเครื่องประดับ สามารถติดต่อ ทักแชททางร้านได้ที่ Line : @manggongold (มี@)   ได้ทุกเวลาเลยนะคะ

นอกจากนั้นหากกำลัง มองหาสินค้าเครื่องประดับ แหวนเพชร แหวนทอง เพชรแท้ ทองแท้ คุณภาพเกินราคา เพชรมังกร ยินดีบริการค่ะ


การสวมใส่เครื่องประดับ เช่น สร้อย แหวน ต่างหู กำไลข้อมือที่ประกอบด้วยอัญมณีสีสันต่างๆนั้น นอกจากส่งเสริมความสง่างามด้านบุคลิกภาพแล้ว ยังมีคุณสมบัติในการส่งเสริมบารมี และกำลังในด้านต่างๆ ในทางอ้อมให้กับผู้สวมใส่อีกด้วย

โดยวันนี้ “เพชรมังกร” มีเคล็ดลับดีๆในการเลือกอัญมณีและเครื่องประดับให้ถูกโฉลกกับเพื่อนๆ ที่เกิดในแต่ละวันกันค่ะ

ผู้ที่เกิด วันอาทิตย์

ลักษณะของผู้ที่เกิด วันอาทิตย์ มีลักษณะความเป็นผู้นำสูงกล้าเสี่ยง ชอบการตัดสินใจ มีเหตุมีผล ชอบการเข้าสังคมและชอบเป็นที่ยอมรับ

สีที่ถูกโฉลกกับผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ คือ สีแดง, ชมพู, เหลือง, ขาว, ส้ม

สีแดงและสีชมพู ช่วยส่งเสริมพลังในด้านบวกให้กับการปกครองบริวาร และความรุ่งเรืองในด้านเดชและอำนาจ อัญมณีแนะนำ พลอย, ไพลินสีแดง, เพทายสีแดง เครื่องประดับแนะนำ เช่น แหวนโกเมน หรือทับทิม เพิ่มความสง่างามของเรียวนิ้วผู้เกิดวันอาทิตย์

สีขาวและสีเหลือง เป็นอายุ ช่วยส่งเสริมด้านสุขภาพให้แข็งแรง มีกำลังวังชา อัญมณีแนะนำ เช่น เพชร หรือ สีเหลือง เช่น บุษราคัม เครื่องประดับแนะนำ เช่น แหวนเพชร, สร้อยเพชร, กำไลเพชร, ต่างหูเพชร หรือ แหวนเพชรบุษราคัม เป็นต้น

สีส้ม สีแห่งการสร้างสรรค์ความสำเร็จ สีแห่งการพยายามอุตสาหะ อัญมณีแนะนำ เช่น บุษราคัมสีส้ม ซึ่งหากอยู่บนหัวแหวนงามๆ สักวงก็คงจะงดงามเลยทีเดียว

ผู้ที่เกิด วันจันทร์

ลักษณะของผู้ที่เกิดวันจันทร์ เป็นบุคคลที่ชอบความสวยงาม ทันสมัย มีความอ่อนไหวแต่ไม่อ่อนแอ ช่างเลือก ใช้เวลาพินิจพิเคราะห์ ชอบวางแผน มีกฎเกณฑ์และชอบเป็นจุดสนใจ

สีที่ถูกโฉลกกับผู้ที่เกิดวันจันทร์ คือ สีขาว, เหลือง, ชมพู, เขียว, ม่วง, ดำ

สีขาวและสีเหลือง ส่งเสริมด้านบริวาร การปกครอง และเพิ่มเสน่ห์ อัญมณีแนะนำ เพชร หรือ สีเหลือง เช่น บุษราคัม เพชรสีเหลือง เพทาย สีเหลือง ไข่มุกสีทอง เครื่องประดับแนะนำ เช่น แหวนเพชร, สร้อยเพชร, กำไลเพชร, ต่างหูเพชร, แหวนเพชรบุษราคัม หรือแหวนทองไข่มุก       

-สีชมพู ส่งเสริมด้านสุขภาพให้แข็งแรง เพิ่มความสดใส กระชุ่มกระชวย อัญมณีแนะนำ เพชรสีชมพู, พลอย และทับทิมสีชมพู  ด้วยผู้ที่เกิดวันจันทร์ ชอบความเก๋ไก๋ และทันสมัย เครื่องประดับแนะนำ จึงเป็นพวก สร้อยเส้นเล็กๆ ที่มีจี้ เพชรหรือทับทิมสีชมพู หรือ ต่างหูเพชรสีชมพูที่เมื่อสวมใส่ ก็จะดูทันสมัยและเหมาะกับทุกชุด ทุกสไตล์

-สีเขียว ช่วยส่งเสริมเรื่องอำนาจ อัญมณีแนะนำ เช่น หยก, มรกต, คริโซเพรส(โมรา) เครื่องประดับแนะนำ เช่น กำไลหยก, ต่างหูหยก, แหวนมรกต

-สีม่วงและสีดำ เป็นศรีของคนวันจันทร์  ถึงแม้ว่าโดยพื้นฐานเป็นคนที่มีเสน่ห์อยู่แล้ว แต่การสวมใสเครื่องประดับที่มีสีม่วงและดำ จะทำให้คนวันจันทร์มีเสน่ห์มากขึ้นกว่าเดิม อัญมณีแนะนำ เช่น นิล เครื่องประดับแนะนำ แหวนเพชรหัวนิล

ผู้ที่เกิด วันอังคาร

ลักษณะของผู้ที่เกิดวันอังคารเป็นคนจริงจัง ตั้งใจ ชอบการแข่งขัน ชอบการเอาชนะ ร่าเริง มีทักษะคติในแง่บวก สนุกกับการใช้ชีวิต อบอุ่นเหมือนดวงตะวัน ชอบการเดินทาง

สีที่ถูกโฉลกกับผู้ที่เกิดวันอังคาร คือ ชมพู, เขียว, ม่วง, ดำ, ส้ม, เทา, ฟ้า, น้ำเงิน

-สีชมพู ส่งเสริมด้านบริวารและการปกครอง อัญมณีแนะนำ เพชรสีชมพู, พลอย และทับทิมสีชมพู เครื่องประดับแนะนำ เช่น แหวนเพชรสีชมพู, แหวนพลอยสีชมพู

-สีเขียว ส่งเสริมความแข็งแรงด้านสุขภาพ อัญมณีแนะนำ เช่น หยก, มรกต ซึ่งช่วยเพิ่มความเย็นกาย สบายใจให้กับคนวันอังคาร เครื่องประดับแนะนำ กำไลหยก, แหวนหยก เป็นต้น

-สีม่วงและสีดำ สร้างเสริมบารมี และความสง่างาม อัญมณีแนะนำ พลอยอเมทิสต์, อัญมณีสีม่วงดอกตะแบก, นิล เครื่องประดับแนะนำ สร้อยคอจี้นิล, กำไลข้อมือพลอยสีม่วง หรือแหวนพลอย

-สีส้ม สร้างเสริมเรื่องเสน่ห์  อัญมณีแนะนำ บุษราคัมสีส้ม เครื่องประดับแนะนำ เช่น สร้อยทองประดับบุษราคัม หรือแหวนทองประดับบุษราคัม ก็ได้

-สีเทา สีดำและสีน้ำเงิน ช่วยส่งเสริมด้านการค้าขาย ความสำเร็จ และการคล่องตัวยิ่งขึ้น อัญมณีแนะนำ เช่น พลอยสีเทาหรือควอตซ์สีเทา, นิล, พลอยไพลิน เครื่องประดับแนะนำ แหวนพลอยล้อมด้วยนิลสักวง ก็จะงดงามเลยทีเดียว

ผู้ที่เกิด วันพุธ

ลักษณะของผู้ที่เกิดวันพุทธ เป็นคนช่างคิด ช่างวิเคราะห์ อยู่นิ่งไม่ได้ ชอบเดินทาง มีเสน่ห์  มีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่น คิดเร็ว พูดเร็ว เป็นคนที่มีความตั้งใจสูง

สีที่ถูกโฉลกกับผู้ที่เกิดวันพุธ (กลางวัน) คือ  เขียว, ม่วง, ดำ, เทา, ฟ้า , น้ำเงิน

-สีเขียว ส่งเสริมด้านบริวารและการปกครอง อัญมณีแนะนำ เช่น หยก, มรกต, คริโซเพรส(โมรา) เครื่องประดับแนะนำ เช่น กำไลหยก, ต่างหูหยก, แหวนมรกต

-สีม่วงและสีดำ ส่งเสริมความแข็งแรงด้านสุขภาพร่างกาย อัญมณีแนะนำ พลอยอเมทิสต์, อัญมณีสีม่วงดอกตะแบก, นิล เครื่องประดับแนะนำ สร้อยคอจี้นิล, กำไลข้อมือพลอยสีม่วง หรือแหวนพลอย

-สีเทา ช่วยส่งเสริมด้านเสน่ห์และการอุปถัมภ์ อัญมณีแนะนำ เช่น พลอยสีเทาหรือควอตซ์สีเทา, นิล, ไพลิน เครื่องประดับแนะนำ แหวนพลอยล้อมด้วยนิล

-สีฟ้าและน้ำเงิน ช่วยส่งเสริมด้านการค้าขาย ความสำเร็จ และการคล่องตัวยิ่งขึ้น อัญมณีแนะนำ พลอยสีฟ้า, ไพลินเครื่องประดับแนะนำ กำไลไพลิน, สร้อยคอพลอย

สีที่ถูกโฉลกกับผู้ที่เกิดวันพุธ (กลางคืน) คือ เทา, ฟ้า, น้ำเงิน, ขาว, เหลือง, ชมพู

-สีเทา ส่งเสริมด้านบริวารและการปกครอง อัญมณีแนะนำ เช่น พลอยสีเทาหรือควอตซ์สีเทา, นิล, พลอยไพลิน เครื่องประดับแนะนำ แหวนพลอยล้อมด้วยนิล

-สีฟ้าและน้ำเงิน ส่งเสริมความแข็งแรงด้านสุขภาพร่างกาย อัญมณีแนะนำ พลอยสีฟ้า, พลอยไพลิน เครื่องประดับแนะนำ กำไลพลอยไพลิน, สร้อยคอพลอย, แหวนพลอยสีน้ำเงิน

-สีขาวและสีเหลือง ช่วยส่งเสริมด้านเสน่ห์และการอุปถัมภ์ เสน่ห์ อัญมณีแนะนำ เพชร หรือ สีเหลือง เช่น บุษราคัม เพชรสีเหลือง เพทาย สีเหลือง ไข่มุกสีทอง เครื่องประดับแนะนำ เช่น แหวนเพชร, สร้อยเพชร, กำไลเพชร, ต่างหูเพชร, แหวนเพชรบุษราคัม หรือแหวนทองไข่มุก

สีชมพู ช่วยส่งเสริมด้านการค้าขาย ความสำเร็จ และการคล่องตัวยิ่งขึ้น อัญมณีแนะนำ เพชรสีชมพู, พลอย และทับทิมสีชมพู เครื่องประดับแนะนำ เช่น แหวนเพชรสีชมพู, แหวนพลอยสีชมพู

ผู้ที่เกิด วันพฤหัสบดี

ลักษณะของผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี เป็นคนที่มีเมตตาสูง ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความมั่นใจในตัวเองและความตั้งใจสูง เป็นที่ปรึกษาที่ดี มีความคิดสร้างสรรค์ อดทนและเสียสละ อ่อนโยนพูดจาไพเราะและเป็นนักประชาสัมพันธ์ที่ดี

สีที่ถูกโฉลกกับผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี คือ ส้ม, เทา, ฟ้า, น้ำเงิน, ขาว, เหลือง

-สีส้ม ส่งเสริมด้านบริวารและการปกครอง อัญมณีแนะนำ บุษราคัมสีส้ม เครื่องประดับแนะนำ เช่นสร้อยทองประดับบุษราคัม หรือแหวนทองประดับบุษราคัม ก็ได้

-สีเทา ส่งเสริมความแข็งแรงด้านสุขภาพร่างกาย  อัญมณีแนะนำ เช่น พลอยสีเทาหรือควอตซ์สีเทา เครื่องประดับแนะนำ ต่างหูพลอย กำไลข้อมือ หรือแหวนเพชรประดับพลอยสีเทา

-สีฟ้าและน้ำเงิน เพิ่มความสง่างามและบารมี  อัญมณีแนะนำ พลอยสีฟ้า, พลอยไพลิน เครื่องประดับแนะนำ กำไลไพลิน, สร้อยคอพลอย, แหวนพลอยสีน้ำเงิน

-สีขาวและสีเหลือง ช่วยส่งเสริมด้านการค้าขาย ความสำเร็จ และการคล่องตัวยิ่งขึ้น อัญมณีแนะนำ เพชร หรือ สีเหลือง เช่น บุษราคัม เพชรสีเหลือง เพทาย สีเหลือง ไข่มุกสีทอง เครื่องประดับแนะนำ เช่น แหวนเพชร, สร้อยเพชร, กำไลเพชร, ต่างหูเพชร, แหวนเพชรบุษราคัม หรือแหวนทองไข่มุก

ผู้ที่เกิด วันศุกร์

ลักษณะของผู้ที่เกิดวันศุกร์เป็นนักสร้างสรรค์ เป็นคนมีจิตนาการสูง มีความเป็นศิลปิน อ่อนหวานและนุ่มนวล มีเสน่ห์ พูดจาไพเราะ ร่าเริง สดใส แต่งตัวดี รสนิยมดี มีสไตล์

สีที่ถูกโฉลกกับผู้ที่เกิดวันศุกร์ คือ ฟ้า, น้ำเงิน, แดง, ขาว, เหลือง, ชมพู, เขียว

-สีฟ้าและสีน้ำเงิน ส่งเสริมด้านบริวารและการปกครอง อัญมณีแนะนำ พลอยสีฟ้า, พลอยไพลิน เครื่องประดับแนะนำ กำไลพลอยไพลิน, สร้อยคอพลอย, แหวนพลอยสีน้ำเงิน

-สีแดง ส่งเสริมความแข็งแรงด้านสุขภาพร่างกาย อัญมณีแนะนำ พลอย, ไพลินสีแดง, เพทายสีแดง เครื่องประดับแนะนำ เช่น แหวนโกเมน หรือทับทิม

-สีขาวและสีเหลือง เพิ่มความสง่างามและบารมี  ยิ่งขึ้น อัญมณีแนะนำ เพชร หรือ สีเหลือง เช่น บุษราคัม เพชรสีเหลือง เพทาย สีเหลือง ไข่มุกสีทอง เครื่องประดับแนะนำ เช่น แหวนเพชร, สร้อยเพชร, กำไลเพชร, ต่างหูเพชร, แหวนเพชรบุษราคัม หรือแหวนทองไข่มุก

-สีชมพู เพิ่มเสน่ห์และเมตตา อัญมณีแนะนำ เพชรสีชมพู, พลอย และทับทิมสีชมพู เครื่องประดับแนะนำ เช่น แหวนเพชรสีชมพู, แหวนพลอยสีชมพู

-สีเขียว ช่วยส่งเสริมด้านการค้าขาย ความสำเร็จ และการคล่องตัวยิ่งขึ้น อัญมณีแนะนำ เช่น หยก, มรกต, คริโซเพรส (โมรา) เครื่องประดับแนะนำ เช่น กำไลหยก, ต่างหูหยก, แหวนมรกต

ผู้ที่เกิด วันเสาร์

ลักษณะของผู้ที่เกิดวันเสาร์เป็นที่มีความขยันอดทน ลงมือลงแรง มีความตั้งใจทำเพื่อประสบความสำเร็จสูง ชอบลงมือทำ เจ้าระเบียบ สุขุม รอบคอบ เป็นที่ปรึกษาและพึงพาได้

สีที่ถูกโฉลกกับผู้ที่เกิดวันเสาร์ คือ ม่วง, ดำ , เทา, ฟ้า, น้ำเงิน, แดง

-สีม่วงและสีดำ ส่งเสริมด้านบริวารและการปกครอง อัญมณีแนะนำ พลอยอเมทิสต์, อัญมณีสีม่วงดอกตะแบก, นิล เครื่องประดับแนะนำ สร้อยคอจี้นิล, กำไลข้อมือพลอยสีม่วง หรือแหวนพลอย

-สีเทา เพิ่มความสง่างามและบารมี  อัญมณีแนะนำ เช่น พลอยสีเทาหรือควอตซ์สีเทา เครื่องประดับแนะนำ ต่างหูพลอย กำไลข้อมือ หรือแหวนเพชรประดับพลอยสีเทา

-สีฟ้าและสีน้ำเงิน เพิ่มเสน่ห์และเมตตา อัญมณีแนะนำ พลอยสีฟ้า, ไพลิน เครื่องประดับแนะนำ กำไลไพลิน, สร้อยคอพลอย, แหวนพลอยสีน้ำเงิน

-สีแดง ช่วยส่งเสริมด้านการค้าขาย ความสำเร็จ และการคล่องตัวยิ่งขึ้น อัญมณีแนะนำ พลอย, ไพลินสีแดง, เพทายสีแดง เครื่องประดับแนะนำ เช่น แหวนโกเมน หรือทับทิมสีแดง

ข้อมูลจาก: หนังสือรวมมงคลคาถาศักดิ์สิทธิ์ (เรียกโชค เพิ่มลาภ บันดาลทรัพย์)

ข้อมูลด้านสีต้นฉบับ